เคล็ดลับปิดหนี้บัตรเครดิต ปี 2567 จบไว ดอกเบี้ยไม่งอก

โพสต์เมื่อ : 28 พ.ค. 2568

 เคล็ดลับปิดหนี้บัตรเครดิต ปี 2567  จบไว ดอกเบี้ยไม่งอก

สำหรับใครที่เจอปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จนติดหนี้บัตรเครดิต และกำลังเครียด ไม่รู้จะเริ่มต้นจัดการอย่างไรดี วันนี้พี่แคชมีเคล็ดลับที่จะช่วยให้ทุกคนปิดหนี้ได้ไวและลดดอกเบี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกันครับ

เคล็ดลับที่ 1 ปิดหนี้บัตรเครดิตแบบ Avalanche method

วิธีการปิดหนี้บัตรเครดิตแบบ Avalanche method คือการจัดการหนี้ด้วยการเน้นการชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในระยะยาว วิธีนี้ต่างจาก Snowball method ตรงที่การจัดลำดับการชำระหนี้จะพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก ไม่ใช่ยอดค้างชำระ ถ้าหากใครยังมองภาพไม่ออก มาดูตัวอย่างกันครับ

ตัวอย่างการปิดหนี้บัตรเครดิตแบบ Avalanche method

สมมุติว่าคุณมีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบดังนี้:

  • บัตร A: ยอดค้างชำระ 50,000 บาท (ดอกเบี้ย 15%)

  • บัตร B: ยอดค้างชำระ 20,000 บาท (ดอกเบี้ย 20%)

  • บัตร C: ยอดค้างชำระ 5,000 บาท (ดอกเบี้ย 18%)

ขั้นตอนในปิดหนี้แบบ Avalanche method:

  1. จัดลำดับหนี้จากดอกเบี้ยสูงไปต่ำ: เริ่มจากหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เช่น บัตร B (20%), บัตร C (18%), และบัตร A (15%) จากข้อนี้จะเห็นได้ว่าหากเลือกชำระหนี้ตามแบบ  Avalanche method ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยที่สูงที่สุดก่อน จะต้องเริ่มจากการชำระหนี้ในบัตร B ที่ดอกเบี้ย 20% ก่อนเป็นใบแรก 

  2. ชำระหนี้ในบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน และชำระขั้นต่ำในบัตรที่เหลือ : โดยวิธีคิดคือตรวจสอบว่าบัตร A และบัตร  C ต้องชำระขั้นต่ำเท่าไหร่ ให้ชำระเพียงขั้นต่ำก่อน และนำเงินที่มีอยู่ทั้งหมดไปชำระบัตร B เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ใบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดได้อย่างเต็มที่

  3. เมื่อชำระยอดหนี้ก้อนแรกหมด  ให้นำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยดอกเบี้ยสูงรองลงมาจนหนี้หมด : นำเงินที่เคยใช้ชำระบัตร B ไปใช้ชำระหนี้ในบัตร C ต่อไป โดยยังคงชำระขั้นต่ำในบัตร A ต่อเนื่องไปจนกว่าหนี้ในบัตร C จะถูกปิด เมื่อปิดหนี้บัตร C แล้ว ให้ย้ายเงินที่เคยใช้ชำระหนี้ในบัตร C ไปใช้ชำระหนี้ในบัตร A ต่อไป

ด้วยวิธีการนี้ คุณจะลดต้นทุนของดอกเบี้ยในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่ได้เห็นความคืบหน้าในการปิดหนี้ที่รวดเร็วเท่ากับ Snowball method แต่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่าในระยะยาว

เคล็ดลับที่ 2 ปิดหนี้บัตรเครดิตแบบ Snowball method  

วิธีการปิดหนี้บัตรเครดิตแบบ Snowball method คือการจัดการหนี้ด้วยการเน้นการชำระหนี้ที่มียอดค้างชำระน้อยที่สุดก่อน จากนั้นจึงค่อยไปชำระหนี้ที่มียอดค้างชำระมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยกระบวนการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้สึกสำเร็จในการปิดหนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการจัดการกับหนี้ที่ใหญ่ขึ้นตามลำดับ

ตัวอย่างการปิดหนี้บัตรเครดิตแบบ Snowball

สมมุติว่าคุณมีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบดังนี้:

  • บัตร A: ยอดค้างชำระ 5,000 บาท (ดอกเบี้ย 18%)

  • บัตร B: ยอดค้างชำระ 20,000 บาท (ดอกเบี้ย 20%)

  • บัตร C: ยอดค้างชำระ 50,000 บาท (ดอกเบี้ย 15%)

ให้คุณทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ :

  1. จัดลำดับหนี้จากน้อยไปมาก: เริ่มจากหนี้ที่มียอดค้างชำระน้อยที่สุดก่อน เช่น บัตร A (5,000 บาท), บัตร B (20,000 บาท), และบัตร C (50,000 บาท)

  2. ชำระขั้นต่ำในบัตรที่เหลือ: สำหรับบัตร B และ C ให้ชำระเฉพาะยอดขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนดไปก่อน เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ใบที่มีจำนวนเงินน้อยที่สุดได้อย่างเต็มที่

  3. ชำระหนี้ในบัตรที่มียอดค้างชำระน้อยที่สุดก่อน: ในกรณีนี้คือบัตร A คุณสามารถชำระเงินที่เหลือทั้งหมดหลังจากชำระขั้นต่ำในบัตร B และ C ไปเพื่อปิดหนี้ในบัตร A ก่อน

  4. เมื่อบัตร A ถูกปิดแล้ว: นำเงินที่เคยใช้ชำระบัตร A ไปใช้ชำระหนี้ในบัตร B ต่อไป โดยยังคงชำระขั้นต่ำในบัตร C ต่อเนื่องไปจนกว่าหนี้ในบัตร B จะถูกปิด

  5. ทำแบบเดียวกันกับหนี้ที่เหลือ: เมื่อปิดหนี้บัตร B แล้ว ให้ย้ายเงินที่เคยใช้ชำระหนี้ในบัตร B ไปใช้ชำระหนี้ในบัตร C ต่อไป

ด้วยวิธีการนี้ คุณจะสามารถเห็นความคืบหน้าได้อย่างชัดเจนเมื่อลดหนี้ลงทีละใบ ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจในการปิดหนี้ที่เหลือต่อไปจนหมด

หรือในอีกทางหนึ่ง หากคุณสามารถหาแหล่งเงินกู้ (ที่ถูกกฎหมาย) ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าได้ ก็สามารถกู้แล้วนำมาปิดหนี้ทั้งหมด เพื่อรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียวและผ่อนชำระสินเชื่อที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่เดียวได้เช่นกันครับ

ข้อดีของ Snowball method

ข้อดีของวิธีนี้คือเราจะได้เห็นความคืบหน้าเร็ว ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจให้เราปิดหนี้ต่อไปได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อช่วยให้มีกำลังใจในการจัดการหนี้

เปรียบเทียบตัวอย่างสถานการณ์การใช้วิธี Avalanche และ Snowball

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น พี่แคชขอยกตัวอย่างนะครับ สมมติว่าคุณมีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ ใบแรกมีหนี้ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 20% ใบที่สองมีหนี้ 5,000 บาท ดอกเบี้ย 18% และใบที่สามมีหนี้ 2,000 บาท ดอกเบี้ย 15%

ถ้าใช้ Avalanche method คุณจะเริ่มจ่ายหนี้ใบแรกที่มีดอกเบี้ยสูงสุดก่อน เพื่อประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว แต่ถ้าใช้ Snowball method คุณจะเริ่มจากใบที่สามที่มีหนี้น้อยที่สุดก่อน เพื่อเห็นความคืบหน้าเร็วและมีกำลังใจครับ

เคล็ดลับที่ 3 เปลี่ยนดอกเบี้ยสูงเป็นต่ำ กับโรงรับจำนำ

และหากคุณีมีทรัพย์สินที่สามารถนำไปจำนำได้ พี่แคชขอแนะนำให้คุณนำทรัพย์สินมามาจำนำและนำเงินที่ได้ไปชำระในวิธี Avalanche method หรือ Snowball ก่อน จะช่วยให้จ่ายดอกเบี้ยได้ถูกลงเพราะโรงรับจำนำเป็นแหล่งการเงินดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 1.25% - 2% ต่อเดือนของมูลค่าทรัพย์สิน เท่านั้น ซึ่งหากใครสนใจ อยากรู้ว่าทรัพย์สินมีค่าที่มีอยู่จำนำได้ไหม จำนำได้เท่าไหร่  สามารถส่งรูปสินทรัพย์ของท่านมาให้พี่แคชประเมินราคาผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ ก่อนไปหน้าสาขา โดยเข้าไปที่ลิงก์นี้เลยครับ คลิกที่นี่เพื่อประเมินราคา

สรุป

สรุป: ทั้ง Avalanche method และ Snowball method ต่างก็มีข้อดีของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการลดดอกเบี้ยในระยะยาว หรืออยากเห็นความสำเร็จเร็ว ๆ พี่แคชหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะใช้วิธีไหนในการปิดหนี้บัตรเครดิตในปี 2567 นี้ครับ! และสำหรับใครอยากหารายได้เสริม อยากรู้ว่าทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ที่บ้าน ต้องเตรียมตัวอย่างไร? อ่านในบทความของเราได้เลยครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง

null

3 รุ่นกระเป๋า Louis Vuitton ที่น่าซื้อ...

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นสนใจกระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ แต่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่แบรนด์ไหน หรือเริ่มที่รุ่นไหน ราคาประมาณเท่าไหร่ วันนี้พี่แคช มีข้อแนะนำมาฝากทุ...

ดูเพิ่มเติม

แคชเอ็กซ์เพรสยืนหนึ่ง โรงรับจำนำบริการทั...

แคชเอ็กซ์เพรสยืนหนึ่ง โรงรับจำนำบริการทันใจ รับเงินด่วนได้ไม่เกิน 30 นาที จากประสบการณ์การให้บริการรับจำนำมานานกว่า 30 ปี โรงรับจำนำแคชเอ็กซ์เพรส ไ...

ดูเพิ่มเติม

จากโควิด...สู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย SME คน...

สำหรับใครที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจเป็นประจำ ช่วงนี้คงจะได้ยินคำว่าสภาวะเศรษฐกิจถดถอย(ภาวะที่ GDP ติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างน้อยๆ  2 ...

ดูเพิ่มเติม