โพสต์เมื่อ : 17 ก.ค. 2567
เมื่อธุรกิจอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขาดสภาพคล่อง เงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs หลายๆคนคงรู้สึกหนักใจไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ เพราะไหนจะค่าต้นทุนสินค้า ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ หันไปทางไหนก็มีแต่รายจ่ายเต็มไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงดี
ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ วันนี้พี่แคชจะพาไปรู้จักกับ 3 Step ที่ SMEs แม่ค้า เจ้าของกิจการ ต้องรีบทำ เมื่อธุรกิจขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินสดหมุนเวียน จะมีอะไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย
การประเมินสถานการณ์การใช้เงินหมุนเวียนเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะเจ้าของธุรกิจทุกคน ควรสำรวจอย่างละเอียดว่าเงินทุนในธุรกิจของคุณ ถูกใช้ไปในสิ่งใดบ้าง และเราสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างไร เพื่อให้เงินสดหมุนเวียนที่มีอยู่ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยสามารถประเมินสถานการณ์การใช้เงินหมุนเวียน ได้ตามขั้นตอนดังนี้
โดยระบุว่ามีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย ในวันไหน เท่าไหร่
โดยพิจารณาว่ามีส่วนไหนสามารถปรับลดลงได้หรือไม่
โดยแบ่งออกเป็น ความจำเป็นสูง กลาง ต่ำ โดยพิจารณาจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เช่น หากผิดรอบชำระแล้วเสียเครดิต เสียดอกเบี้ย ให้จัดอยู่ ในความสำคัญระดับสูง หรือหากเลื่อนการจ่ายออกได้ ไม่เสียเครดิต อยู่ในระดับความสำคัญต่ำ
ยามที่ธุรกิจของเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและไม่มีเงินสดหมุนเวียนอย่างเพียงพอการเจรจากับคู่ค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากเรามีคู่ค้าที่ทำงานร่วมกันมานาน เข้าใจกัน การสื่อสารจะช่วยให้เปลี่ยนวิกฤตที่เกิดขึ้นทุเลาลงไปได้ โดยเรื่องที่ควรเจรจาร ได้แก่
การหาเงินทุนหมุนเวียนจากสินเชื่อธนาคารและโรงรับจำนำเป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แม้ว่าทั้งสองวิธีนี้จะช่วยให้เราได้เงินสดในการดำเนินธุรกิจต่อไป แต่มีความแตกต่างที่สำคัญที่ทำให้เราต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจดังนี้ครับ
โดยสินเชื่อเพื่อธุรกิจของธนาคารอาจใช้ระยะเวลาในการอนุมัติที่ 7 - 15 วันทำการ ส่วนโรงรับจำนำหากมีบัตรประชาชนและนำทรัพย์สินไปที่ หน้าสาขา หลังจากประเมินที่หน้าสาขาแล้วก็สามารถรับเงินได้ทันทีเลยครับ
วงเงินที่อนุมัติ ในกรณีของการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ธนาคารจะพิจารณาตามเครดิตที่คุณมี ส่วนโรงรับจำนำจะพิจารณาจากมูลค่าทรัพย์สินที่คุณ นำมาจำนำครับ
ในกรณที่ต้องการขอสินเชื่อธนาคารอาจเอกสารเบื้องต้นที่จะต้องเตรียมไป ได้แก่ เอกสารจำพวกบัตรประชาชนและเอกสารส่วนบุคคล,Statement รายการเดินบัญชี โดยในบางที่อาจต้องนำเสนอแผนธุรกิจประกอบด้วย ส่วนกรณีโรงรับจำนำ เตรียมไปเพียงแค่บัตรประชาชนและทรัพย์สินที่ ต้องการจำนำพอครับ
สำหรับดอกเบี้ยธนาคารจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละธนาคารโดยจะอยู่ในระหว่าง 6 - 9% ต่อปี 6-15% ต่อปี มีทั้งแบบคงที่และลอยตัว(อาจมี การปรับขึ้นตามเศรษฐกิจ) ส่วนอัตราดอกเบี้ยของโรงรับจำนำ (อ้างอิงจากโรงรับจำนำแคชเอ็กซ์เพรส) จะอยู่ที่ 1.25% - 2% ต่อเดือน โดย เงิน ต้น 2,000 บาทแรกจะคิดอัตราดอกเบี้ย 2% และส่วนที่เกินจาก 2,000 บาท จะคิดอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน
สำหรับการกู้เงินทุนหมุนเวียนจากสินเชื่อธนาคาร เราจะต้องผ่านกระบวนการทางการเงินที่ซับซ้อนและเข้มงวดมากขึ้น เราต้องมีเครดิตที่ดีและประวัติการเงินที่มั่นคง เพื่อให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ แต่การขอสินเชื่ออาจเสียเวลาและอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ
ส่วนโรงรับจำนำเป็นทางเลือกที่มีความสะดวกสบายและรวดเร็ว โดยเราสามารถนำทรัพย์สินที่มีมาจำนำได้ทันทีเพื่อรับเงินสด เช่น เครื่องประดับทองคำ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เราไม่จำเป็นต้องมีประวัติเครดิตที่ดีหรือเอกสารอื่นๆ แต่ค่าดอกเบี้ยจะมีความสูงกว่าที่ธนาคารและมีค่าประกันเป็นเท่าที่เราจะนำทรัพย์สินมาจำนำ
ดังนั้น เมื่อต้องการหาเงินทุนหมุนเวียน ควรพิจารณาทั้งสองวิธีอย่างละเอียดและพิจารณาถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของธุรกิจของเราด้วยครับ
ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจ แม่ค้า หรือพ่อค้าท่านใดที่ต้องการหาเงินสดด่วนเพื่อหมุนเวียนธุรกิจ โรงรับจำนำแคชเอ็กซ์เพรส (Cash Express) ยินดีเสมอที่จะมาเป็นตัวช่วยในการสนับสนุนให้ธุรกิจคุณได้หมุนต่อและเติบโตได้ หากสนใจอยากได้เงินด่วน ทดลองประเมินราคาทรัพย์สินของคุณได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ