แจกทริควิธีเก็บเงินให้อยู่หมัด ฉบับวัยรุ่นของมันต้องมี

ทุกคนรู้ว่า “การออมเงิน” เป็นสิ่งสำคัญและถูกสอนมาตั้งแต่เด็กเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แต่เมื่อโตขึ้น เรามีอิสระในการใช้ชีวิตและใช้จ่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ของกิน หรือไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชอบ ก็มักดึงดูดใจให้เราใช้เงินอยู่ตลอด และหลายคนมักแพ้คำพูดอย่าง “ของมันต้องมี” หรือ “โอกาสนี้พลาดไม่ได้นะ” ทำให้เงินออมที่ควรเพิ่มขึ้นกลับลดลงหรือคงที่อยู่เหมือนเดิม
ซึ่งถ้าเราไม่วางแผนการเงิน เหตุการณ์ไม่คาดคิดอาจนำพามาสู่ปัญหาต่างๆตามมาได้ วันนี้พี่แคชจึงอยากแนะนำวิธีเก็บเงินแบบใหม่ ที่ยังสนุกกับชีวิต มีทั้งของที่อยากได้ คอนเสิร์ตที่อยากไป และมี “เงินสำรองอุ่นใจ” ตามทริคด้านล่างครับ
สาเหตุที่เก็บเงินในบัญชีไม่อยู่โดยไม่รู้ตัว

แต่ก่อนที่จะให้ทุกคนได้อ่านทริคการเก็บเงินออม พี่แคชขอบอกถึงสาเหตุพฤติกรรมที่ทำให้การเก็บเงินออมของเราดูลดลง ซึ่งบางพฤติกรรมถึงแม้จะเป็นการใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ หรือเรามองข้ามไป แต่เมื่อเอาเงินทั้งหมดที่เสียไปมารวมกันก็อาจเสียหายไปหลายบาทก็ได้ครับ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีพฤติกรรมใดบ้างที่ส่งผลต่อการเก็บเงินออมของเรา
1. ใช้จ่ายก่อนออม : บางคนอาจมีความคิดที่ว่า “เงินเดือนออก เราก็ใช้จ่ายก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยเป็นเงินเก็บ” แต่หารู้ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเงินที่เราจะเก็บออมนั้น “แทบจะไม่เหลือให้เก็บ” เลยด้วยซ้ำ เหตุเพราะเรามักจะมองว่าเงินยังเหลืออยู่ ยังใช้จ่ายได้อีกเรื่อยๆ
2. ซื้อของเล็กๆน้อยๆ แต่ซื้อเรื่อยๆ : แน่นอนว่าเมื่อเป็นของเล็กๆน้อยๆในราคาไม่กี่บาท เรามักจะมองว่า “ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ไม่กี่บาทเอง” แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราซื้อเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วมันก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตอยู่ดี เช่น กาแฟแก้วละ 100 บาท แต่ถ้าซื้อทุกวัน เดือนนึงก็เท่ากับ 3,000 บาท เห็นมั้ยว่า 3,000 บาทนั้นถ้าเราไม่ซื้อทุกวัน เราก็จะมีเงินเก็บที่เกือบถึงสามพันบาทแน่นอน
3. ไม่มีการวางแผนการเก็บออม : ถ้าเราไม่มีวินัยในการเก็บเงินออม สุดท้ายแล้วในอนาคตเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คนที่จะลำบากก็คือตัวเราเอง ดังนั้นเราจะต้องรู้จักฝึกให้เป็นนิสัย เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง
4. ไม่แยกบัญชีเงินออมกับรายจ่าย : บางคนมักจะมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะมองว่าสุดท้ายแล้วเงินก็อยู่ในบัญชีเหมือนกัน แต่หารู้ไม่ว่าการที่เงินออมปนในบัญชีรายจ่าย มันก็มีโอกาสที่จะทำให้เงินออมส่วนนั้นอาจถูกใช้มากขึ้น ดังนั้นเราควรเปิดบัญชีเงินออมแยกออกมา เพื่อลดปัญหาการใช้จ่ายร่วมกัน
วิธีเก็บเงิน 101 – เก็บเงินยังไงให้ได้ตามเป้าที่กำหนด

พี่แคชมัดรวม 5 วิธีเก็บเงินที่ใครๆก็สามารถทำได้ โดยไม่ตึงเกินไปและไม่หย่อนเกินไป ดังนี้
1. แบ่งหมวดหมู่ในการเก็บเงิน : โดยเราตั้งเป้าหมายว่า หมวดการซื้อของ การกิน ค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆเราจะเก็บเงินครั้งละเท่าไหร่ อาจครั้งละ 500 หรือ1,000 ตามความเหมาะสมของเราและค่าใช้จ่าย
2. ได้เงินเดือนมาเท่าไหร่ เก็บเข้าเงินฝากก่อน 10% : สมมุติเรามีเงินเดือน 15,000 บาท ให้หักเก็บไว้ 1,500 บาท และเมื่อหักลบกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เราก็จะมีเงินเหลืออีกส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนนั้นก็สามารถนำมาเป็นเงินเก็บต่อได้อีกที
3. มีเศษเหรียญ ให้หยอดกระปุกทันที : วิธีนี้ถึงแม้จะดูเก็บได้ช้ากว่า แต่ไม่เครียดแน่นอน และถ้ากระปุกเต็มเมื่อไหร่ ลองแกะออกมานับดู พี่แคชเชื่อว่าได้มาอีกหลายร้อยเลยทีเดียว
4. ใช้ตารางในการเก็บออม : ตั้งเป้าหมายว่า ในหนึ่งอาทิตย์เราจะเก็บออมวันละเท่าไหร่ หรือในหนึ่งเดือนเราจะเก็บออมยังไง เช่น อาทิตย์แรกวันละ 10 บาท อาทิตย์ที่สองวันละ 20 บาท เป็นต้น
5. ใช้จ่ายไปเท่าไหร่ ออมเงินคืนเท่านั้น : เป็นเหมือนเรายืมเงินตัวเองออกมาใช้ก่อน แล้วค่อยคืนให้ทีหลัง ไม่ใช่ใช้จ่ายออกไปโดยที่ไม่เก็บเงินคืน
เก็บเงินให้สนุกด้วยการ Challenge

และมาต่อกันที่ Challenge การเก็บเงินที่พี่แคชตั้งใจเลือกมาให้โดยเฉพาะ สนุกและไม่เครียดแน่นอนครับ
1. เก็บเงินแบบเก็บแบงก์ประจำเดือน : โดยเราตั้งเป้าหมายว่า “เดือนนี้เราจะเก็บแบงก์อะไร” เช่น จะเก็บแบงค์ 50 เมื่อเรามีเงินสดเป็นแบงค์ 50 เราก็เก็บแบงก์นั้นใส่ไว้ในสมุดหรือซองเก็บเงินที่เราทำเองทันที และเมื่อเก็บจนครบ 1 เดือน ก็ค่อยนำเงินไปฝาก หรืออาจจะทำการสุ่มจับฉลากว่าเดือนนี้จะเก็บแบงก์อะไร เพื่อเพิ่มความสนุกมากยิ่งขึ้น พี่แคชเชื่อว่าจำนวนเงินได้หลายบาทแน่นอนครับ
2. สำหรับสายตามศิลปิน : แน่นอนว่าแฟนคลับนั้นก็ต้องใช้เงินหลายบาท เพื่อซื้อสินค้า ไปคอนเสิร์ต หรือทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับศิลปิน พี่แคชเลยขอแนะนำให้ลองตั้งกฎการเก็บเงินฉบับติ่งศิลปินนั่นก็คือ เมื่อศิลปินลงรูปเราจะเก็บเงินกี่บาท, ศิลปินออกเพลงใหม่เราจะเก็บเงินกี่บาท, วันเกิดศิลปินเราจะเก็บเงินกี่บาท เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้พี่แคชว่าแฟนคลับน่าจะชอบ เพราะได้ทั้งดูผลงาน และออมเงินอีกด้วย
3. ออมเงินตามวันที่ในปฏิทิน : เช่น วันที่ 1 เราก็เก็บ 1 บาท วันที่ 15 เราเก็บ 15 บาท ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบหนึ่งเดือน เมื่อพอขึ้นเดือนใหม่ก็วนกลับมาเก็บ 1 บาทอีกรอบ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถึงแม้การเก็บเงินด้วยวิธีนี้จะดูเหมือนเก็บเงินได้น้อย แต่ถ้าเก็บครบทุกเดือน พี่แคชเชื่อว่าใน 1 ปี เมื่อเอาเงินทั้งหมดมารวมกันก็ได้เป็นหลักพันแน่นอนครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับวิธีเก็บเงินของพี่แคช ถึงแม้เราจะเริ่มเก็บจากจำนวนน้อยๆแค่หลักสิบต่อวัน แต่ถ้าทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ มันก็สามารถเปลี่ยนจากหลักสิบเป็นหลักพันได้และอาจจะถึงหลักหมื่นหลักแสนถ้ายังคงเก็บออมไปเรื่อยๆ โดยไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เพราะสุดท้ายแล้วเงินเก็บจะมีมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและการวางแผนออมเงิน และถ้าหากใครต้องการใช้เงินด่วนและกำลังมองหาโรงรับจำนำ พี่แคชขอแนะนำ โรงรับจำนำแคชเอ็กซ์เพรส ยินดีให้คำปรึกษาและบริการ 16 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
หรือใครที่สนใจอยากลองประเมินออนไลน์ก่อนเข้าไปโรงรับจำนำ Cash Express ของเราก็มีให้ลอง ประเมินราคาจำนำออนไลน์ ที่ประเมินได้ตลอด 24 ชั่วโมง
และสำหรับใครที่อยากลองเก็บออมด้วยวิธีอื่น เช่น การลงทุนเงินออม การฝากประจำ ก็สามารถอ่านต่อได้ที่บทความนี้เลยครับ!