กำไรระยะสั้นหรือระยะยาว การลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

โพสต์เมื่อ : 5 ก.พ 2563

กำไรระยะสั้นหรือระยะยาว การลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังมองหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองและสามารถสร้างผลกำไรตอบแทนได้มากที่สุดอาจมีคำถามในใจว่า “การลงทุนระยะสั้น” หรือ “การลงทุนระยะยาว” ที่ตอบโจทย์สำหรับคุณมากกว่ากัน? อันที่จริงการลงทุนทั้งสองประเภทมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันพอสมควร ดังนั้นในบทความนี้ พี่แคชจึงขอพาคุณผู้อ่านและนักลงทุนมือใหม่ทุกท่านไปทำความรู้จักกับรายละเอียดของการลงทุนทั้งสองประเภทเพื่อที่จะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องว่าการลงทุนแบบใดเหมาะกับตัวเรา และยังเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีก่อนที่จะเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดแห่งการลงทุนเพื่อสร้างผลกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ

การลงทุนระยะยาว

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนระยะยาว

หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย การลงทุนระยะยาวก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ที่ต้องใช้เวลาในการผลิดอกออกผล ทำให้การลงทุนประเภทนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับคนที่ไม่รีบร้อน สามารถรอเวลาเพื่อเก็บเกี่ยวผลกำไรเป็นเวลายาวนานได้ ซึ่งรับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้ คุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถถอนทุนออกมาใช้ก่อนได้เป็นระยะเวลานาน ทำให้พลาดโอกาสที่จะนำเงินทุนไปใช้อย่างอื่นระหว่างที่รอผลกำไรจึงมีความคล้ายคลึงกับการออมเงินในระยะยาว การลงทุนระยะยาวอย่างเหมาะสมจะสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจหลายประการ ดังต่อไปนี้

1.ดอกเบี้ยทบต้น เมื่อทำการลงทุนกับการซื้อหุ้นแบบระยะยาวเป็นประจำทุกเดือนผลตอบแทนที่ได้รับนั้นจะมากกว่าการนำไปฝากธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยเป็นเวลาหลายปี แต่อย่างไรก็ตามกว่าที่ค่าตอบแทนในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยจะมากเพียงพอนั้นก็ต้องใช้เวลานานหลายปีเลยเดียว

2.ความผันผวนทางการเงินที่น้อย เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะสั้น สินทรัพย์จากการลงทุนระยะยาวนับว่ามีความมั่นคงมากกว่าและมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตามการลงทุนในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การศึกษาสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนแต่ละแบบเพื่อศึกษาความผันผวนที่มีความแตกต่างกันด้วย

3.ได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี การลงทุนระยะยาวหลายประเภทเช่น กองทุนระยะยาว LTF-RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดหย่อนภาษีเรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวกำไรสองต่อเลยทีเดียว

สำหรับตัวอย่างของการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจ ได้แก่ 

1.กองทุนหุ้น เช่น ABSM กองทุนที่เน้นการลงทุนกับหุ้นขนาดเล็กและกลาง และBTP กองทุนบัวหลวง ที่เน้นการลงทุนกับหุ้นจำนวนไม่มาก

2.กองทุนหุ้นปันผล เป็นการลงทุนระยะยาวที่หลายคนให้ความสนใจค่อนข้างมาจากการปันผลที่น่าสนใจในระยะยาว แต่ในปัจจุบันความน่าสนใจการลงทุนอาจลดน้อยลงไปมากสำหรับกองทุนหุ้นปันผลที่น่าสนใจในปัจจุบัน เช่น KFSDIC , TEF DIV และ KTSE เป็นต้น

3.กองทุน Passive Fund สร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำมาก เช่น KSET50 , TMBSET50 และ SCBSET50 เป็นต้น

4.กองทุนตราสารหนี้ มีความน่าสนใจในการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและช่วยให้การเก็บออมเงินปลอดภัยมากขึ้น สำหรับกองทุนตราสารหนี้ที่น่าสนใจได้แก่ K-FIXED KFSMUL และ TMBABF เป็นต้น

5.กองทุนตลาดเงินที่ความเสี่ยงต่ำมาก เหมาะกับคนที่ต้องการฝากเงินเอาไว้เพื่อรับดอกเบี้ย เช่น P-CASH และ T-CASH ที่มีความปลอดภัยสูงและมีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แพง

6.กองทุน RMF มีความเสี่ยงต่ำและเหมาะกับคนที่อยากออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณและยังใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย  

7.กองทุนอสังหาฯแบบ Fund of Property Fund ให้ผลการตอบแทนที่อย่างสม่ำเสมอที่ไม่ได้เกิดจากการเก็งกำไรและมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ เช่น M-PROP DIV และ T-PROP เป็นต้น 

การลงทุนระยะยาวเหมาะกับใครบ้าง?

การลงทุนระยะยาวเหมาะกับคนที่มีฐานเงินเดือนประจำเช่น พนักงานออฟฟิศหรือข้าราชการ ที่มีความต้องการอยากออมเงินระยะยาวเอาไว้ใช้หลังเกษียณหรือยามจำเป็นโดยปราศจากความเสี่ยง นอกจากนี้การลงทุนระยะยาวบางประเภทเช่น LTF และ RMF ยังให้สิทธิพิเศษในการช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

การลงทุนระยะสั้น

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนระยะสั้น
การลงทุนระยะสั้นเหมาะกับคนที่ต้องการผลกำไรในเวลาสั้นๆ ใช้เวลาในการลงทุนไม่นานแต่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การลงทุนในลักษณะนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงตามไปด้วย สำหรับการลงทุนระยะสั้นที่สามารถยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจหลักการลงทุนได้อย่างง่ายดายมากที่สุดคือการลงทุนกับ หุ้น พันธบัตรรัฐบาล การฝากเงินในธนาคารแบบทวีทรัพย์และแบบฝากประจำที่ยิ่งทำการฝากเงินนานเท่าไรอัตราดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงมากขึ้นตามไปด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องทำการเสียภาษีส่วนหนึ่งเมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจเผลอตัวถอนออกมาใช้จนหมดเป็นต้น ส่วนการลงทุนระยะสั้นนั้นมีผลตอบแทนที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1.ผลตอบแทนที่รวดเร็ว การลงทุนระยะสั้นให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างรวดเร็วและ ในลักษณะของการซื้อมาขายไป 

2.ผลตอบแทนสูง การลงทุนระยะสั้นให้ผลการตอบแทนที่สูง ทำให้หลายคนที่มีความเชื่อว่าการลงทุนดีกว่าการฝากเงินจึงได้นิยมนำเงินมาลงทุนระยะสั้นมากว่า แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยเวลาในการนั่งติดตามวิเคราะห์ราคาของตลาดและการลงทุนเนื่องจากความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลา

3.ถอนออกมาใช้ก่อนได้ การลงทุนระยะสั้นสามารถถอนเงินออกมาใช้ก่อนได้หากจำเป็น แล้วจึงค่อยทำการเพิ่มวงเงินในการลงทุนในภายหลังหากต้องการ แต่การทำเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินและสร้างความผันผวนให้กับการลงทุนพอสมควรเลยทีเดียว

สำหรับตัวอย่างของการลงทุนระยะสั้นที่น่าสนใจ ได้แก่ 

1.กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยในการถือครองในขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 1 ปี เหมาะกับคนที่อยากลงทุนระยะสั้นแต่ต้องการลดความเสี่ยงให้น้อยลง เช่น KFSPLUS และ TIMBMPLUS เป็นต้น

2. กองทุนรวมตลาดเงิน คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีกำหนดชำระเงินต้นเมื่อทวงถามหรือมีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้น ของผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง

3. พันธบัตรรัฐบาล เป็นการลงทุนระยะสั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจะเป็นลักษณะของการออกเงินให้รัฐบาลกู้ยืม โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทนและยังเติบโตตามอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย

4. หุ้น เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของตัวหุ้นนั้นๆ ยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากเท่าไรก็จะยิ่งได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการลงทุนในระยะสั้นมักจะเป็นการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง จึงเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์หรือมีความรู้ในการเล่นหุ้นอย่างมาก และสามารถแบกรับความเสี่ยงที่ตามมาได้

การลงทุนระยะสั้นเหมาะกับใครบ้าง?

การลงทุนระยะสั้นเหมาะกับนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ หรือผู้ที่มีเงินทุนในมือจำนวนมากแล้วอยากทำการลงทุนเพื่อให้เม็ดเงินมีการงอกเงยมากขึ้นและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว

โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวแม้จะมีรูปแบบในการลงทุนที่แตกต่างกันก็ล้วนแล้วแต่ช่วยสร้างผลกำไรอันเป็นเป้าหมายสูงสุดให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตามลักษณะของการลงทุนทั้งสองประเภทนี้ก็มีความเหมาะสมกับคนแต่ละกลุ่มแตกต่างกัน นักลงทุนจึงต้องทำความเข้าใจกับลักษณะการลงทุนทั้งสองประเภทเพื่อช่วยให้เกิดการลงทุนอย่างเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาเงินทุนด่วนเพื่อนำมาหมุนเวียนกับการลงทุนระยะสั้น หรือมองหาเงินสำรองสำหรับหมุนเวียนในระหว่างที่รอผลกำไรจากการลงทุนระยะยาว ก็สามารถนำทรัพย์สินมีค่ามาจำนำเป็นเงินด่วนที่โรงรับจำนำแคชเอ็กซ์เพรส ที่มีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์คอยประเมินราคาและรับจำนำทรัพย์สินของคุณด้วยราคาที่ยุติธรรม ดอกเบี้ยต่ำ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั้ง 11 สาขาครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รับรองว่า “จำนำทันใจ ได้เงินทันใช้” ไม่พลาดโอกาสในการลงทุนอย่างแน่นอนครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง

Rolex Submariner ปี 2020 ต่างจากเดิมยั...

ในปี 2020 ทาง Rolex ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่หลายรุ่น ซึ่งรุ่น Submariner ปี 2020 ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจจากนักสะสม เนื่องจากเป็น “นาฬิการุ่ ...

ดูเพิ่มเติม >
ทองคำ 9k 18k 23k 24k ต่างกันอย่างไร จำนำได้ไหม

ทองเค 9k 18k 23k 24k ต่างกันอย่างไร จำนำ...

ทองเค 9k 18k 23k 24k ต่างกันอย่างไร จำนำได้ไหม? ทองคำ 9k 18k 23k 24k ต่างกันอย่างไร จำนำได้ไหม? หลายคนไม่รู้ว่า ทอง9k, 18k  23k กั ...

ดูเพิ่มเติม >
recommended gold shop cover

เช็กลิสต์! เลือกซื้อทองร้านไหนดี กับ 9 ร...

9 อันดับร้านทองยอดฮิต สำหรับคนที่คิดจะซื้อทองครั้งแรก!  ประเทศไทยมีร้านขายทองให้เลือกใช้บริการเยอะมาก และคนที่อยากซื้อทองครั้งแรกคงคิดไม่ต ...

ดูเพิ่มเติม >