ลงทุนเพชร VS ลงทุนทอง
สำหรับใครที่มีความสนใจด้านการเงิน การลงทุน คงจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจของโลกไม่ว่าจะเป็นวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หรือภาวะฟองสบู่แตกที่รู้จักกันในชื่อของวิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วกันใช่ไหมครับ? ซึ่งวิกฤตเหล่านี้มีเป็นสาเหตุทำให้ “ค่าเงิน” ที่คุณถืออยู่ในมือ กลายเป็นสิ่งด้อยค่าและมีมูลค่าลดลงอย่างมหาศาล…ด้วยเหตุนี้ ทำให้ในปัจจุบัน มีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มมองหาการถือครองสินทรัพย์อื่นๆที่มีความเป็นสากล ยอมรับในการใช้แลกเปลี่ยนแทนเงินสดได้ทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับตนเอง โดยสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ คงหนี้ไม่พ้น “เพชร” และ “ทองคำ” ซึ่งแม้ว่าจะดูมีมูลค่าที่สูง และยอมรับทั่วโลกเหมือนกันแต่ด้วยรายละเอียดแล้วมีความแตกต่างกันไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้พี่แคชเลยมีข้อมูลเปรียบเทียบมาฝากกันครับ ใครที่กำลังจะเริ่มลงทุนจะได้นำไปเป็นข้อมูลดูกันว่า ตนเองเหมาะกับลงทุนในสินทรัพย์อะไร
1) งบประมาณ 20,000 ต้น ๆ
หากจะมองที่มูลค่าการลงทุนต่อ 1 หน่วยเทียบราคาเพชร 1 กะรัต ราคาทอง 1 บาท คงจะแตกต่างกันมากพอสมควร เพราะราคาของเพชรมีช่วงราคาที่กว้างตั้งแต่หลักแสนต้นๆ - 5 แสนบาทเลยทีเดียวแตกต่างจากทองที่มีการกำหนดราคาเป็นวันๆ วันนี้พี่แคชเลยลองนำงบประมาณมาเป็นหลักในการเปรียบเทียบกันครับ ซึ่งในงบจำนวน 2 หมื่นต้นๆ นั้น หากไม่ใช้ช่วงที่ราคาทองมีราคาผันผวนสูงมากๆ แน่นอนว่าคุณจะได้รับทองคำ 1 บาทแน่นอน ซึ่งในขณะเดียวกันหากนำไปซื้อเพชร คุณจะได้เพชรกลับมาประมาณ 0.1 - 0.3 กะรัต ตามการประเมินมูลค่าของเพชรแต่ละเม็ดนั่นเอง (อ้างอิงราคาเพชร : https://bit.ly/2Ht9bYG )
2) อัตราผลตอบแทน
อย่างที่รู้กันดีว่าทองและเพชรเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาจากการที่เป็นแร่และอัญมณีที่หายาก ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วการลงทุนในทองจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 4.95% ต่อปี (http://bit.ly/2YvH3eS) ซึ่งต่ำกว่าการลงทุนในเพชรที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14% ต่อปีเลยทีเดียวครับ (http://bit.ly/2MmzBfA) แต่แน่นอนว่าด้วยมูลค่าผลตอบแทนเฉลี่ยนี้เป็นเพียงข้อมูลย้อนหลัง ไม่สามารถนำไปใช้คาดการณ์ได้เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพชร ที่มีความผันผวนเป็นอย่างมากตามสภาพความสมบูรณ์ของเพชรแต่ละเม็ด ดังนั้นหากใครอยากได้เพชรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงก็อย่าลืมเลือกเพชรที่ขาวสว่าง ไม่มีตำหนิจากการเจียระไนด้วยนะครับ
3) ความผันผวนของราคา
อย่างที่บอกเล่ากันไปในหัวข้ออัตราผลตอบแทนด้านบนว่าการลงทุนของเพชรนั้นค่อยข้างยากและมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทำให้ราคาของเพชรมีความผันผวนค่อนข้างสูง ในขณะที่ราคาของทองคำ ถึงแม้จะมีความผันผวนบ้างตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ก็ยังถือว่ามูลค่าของทองค่อนข้างเสถียรและไม่ถูกกระทบจากวิกฤตทางการเงินสักเท่าไหร่ครับทองคำถูกเรียกว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหรือที่หลบภัยสำหรับนักลงทุน เมื่อตลาดการเงินอยู่ในภาวะที่ผันผวนรุนแรง
4) ระยะเวลาที่ควรลงทุน
สำหรับการลงทุนในเพชรต้องอาศัยความรู้เเละความอดทนอย่างมากครับ เพราะโดยธรรมชาติของตัวสินทรัพย์จะใช้เวลาเป็นปัจจัยหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าของตนเองให้สูงขึ้น และไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ในขณะที่การลงทุนในทองสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในระยะสั้น - ระยะยาวเพราะราคามีการเปลี่ยนแปลงทุกวันในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนที่ชอบติดตามข่าวจากฝั่งสหรัฐอเมริกามีโอกาสที่จะเก็งกำไรระยะสั้นได้บ่อยๆ และนอกจากนี้ทองคำยังเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกยอมรับ ใช้ในการแลกเปลี่ยน จึงถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่เหมาะกับการลงทุนในระยะยาวได้เช่นเดียวกัน
5) สภาพคล่องในการเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสด
สำหรับสภาพคล่องของทองคำในการเปลี่ยนเป็นเงินสด ถือว่าสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับเพชร เนื่องจากมีราคามาตรฐานสากล สามารถซื้อขายได้โดยง่าย ไม่ต้องอาศัยความรู้และความพิถีพิถันในการตีราคามากนัก แต่ในขณะเดียวกันเพชรมีลักษณะเฉพาะที่ต้องอาศัยความชำนาญจากคนในการตีราคา โดยจากการดูน้ำหนัก สี ความสะอาด และการเจียระไน
6) เหมาะกับนักลงทุน
เพชรกับทองเหมาะกับนักลงทุนที่มีนิสัยแตกต่างกัน หากสรุปง่ายๆ คือการลงทุนในทองจะเหมาะกับคนที่ต้องการสภาพคล่องสูง ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น และต้องการถือสินทรัพย์ไว้เพื่อเป็นหลักประกันหากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องการเงินด่วน ในขณะที่เพชร ที่เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มมูลค่าเงินในระยะยาว 10 ถึง 20 ปี และมีความเชี่ยวชาญในการประเมินมูลค่าเพชรได้อย่างถูกต้อง
แม้ว่าสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมามีข้อได้เปรียบ รวมถึงมีปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าที่แตกต่างกัน เหมาะกับนักลงทุนที่มีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกัน แต่สินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทนี้ก็สามารถนำมาเปลี่ยนเป็นเงินได้ที่โรงรับจำนำ Cash Express ทุกสาขา หากใครสนใจอยากทราบราคาคร่าวๆสามารถประเมินราคาออนไลน์กับพี่แคชก่อนไปที่สาขาได้ที่นี่เลยครับ
