โพสต์เมื่อ : 11 มี.ค. 2563
หลายคนที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจคงจะทราบกันดีว่า ในปี 2020 นี้เป็นปีที่เศรษฐกิจบ้านเราค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากเศรษฐกิจในปีนี้มีแนวโน้มที่จะผันผวนมาก และเป็นปีที่วัฏจักรเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ช่วงภาวะถดถอย (regression)
แถมยังจะมีอีกหลายเหตุการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เช่น สงครามการค้าจีน-อเมริกา ความขัดแย้งอเมริกา-อิหร่าน เงินบาทแข็งค่า การส่งออกที่ชะลอตัว หนี้เสียที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงข่าวที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของจีนในสายตาชาวโลกอย่าง การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือไวรัสอู่ฮั่น
คงทำให้หลายคนรู้สึกกังวลกันไม่น้อยว่า ปีนี้จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นหรือไม่...ถ้าเกิดขึ้นจริงเราควรรับมือกับมันอย่างไร และสถานการณ์แบบนี้ควรลงทุนอะไรดี วันนี้พี่แคชจะพาคุณไปหาคำตอบกันครับ
วิกฤตเศรษฐกิจเกิดจากอะไร ?
วิกฤตเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งคาดเดาไม่ได้ มักจะเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายๆปัจจัย เช่น ค่าเงินแข็งตัวทำให้ส่งออกได้ลดลง การลงทุนผลิตสินค้าเกินความต้องการของตลาดจนเกิดสภาวะฟองสบู่
ธุรกิจอสังหาตกต่ำ นโยบายเศรษฐกิจที่ไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน หรือเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจ เช่น สงครามการค้า สงครามระหว่างประเทศ หรือ การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก เช่น ทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นจนมีหนี้เพิ่ม บริษัทเจ๊ง คนตกงาน เศรษฐกิจผันผวน หรือทำให้เกิดวิกฤตค่าเงิน จนทำให้กระทบกับความเป็นอยู่ของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเตรียมตัวรับมือวิกฤตเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เราไปดูกันเลยว่า ถ้าเปีนี้เกิดวิกฤตเศรษฐกกิจขึ้นมาจริงๆ เราควรับมือกับมันอย่างไรบ้าง…
ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เตรียมรับมืออย่างไรดี ?
ถ้าหากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤตสิ่งที่ทุกคนควรเตรียมพร้อมรับมือ มีอยู่ 4 ด้านด้วยกัน ดังนี้ครับ
1.ถือเงินสดไว้ในมือมากขึ้น เนื่องช่วงนี้สินทรัพย์หลายๆตัวมักจะมีความผันผวนอย่างมาก การมีเงินสดไว้ในมือจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และอาจสร้างโอกาสลงทุนให้กับคุณ เช่น หากราคาหุ้นตกมากๆในช่วงวิกฤต ถ้าคุณมีเงินสดในมือคุณจะสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าสภาวะปกติ
2.ไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยธนาคารมักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นมาก ดังนั้นจึงควรปลดหนี้ที่มีให้เยอะที่สุด รวมถึงไม่ควรก่อหนี้เพิ่มโดยเฉพาะหนี้ต่างประเทศ และหนี้ที่มีดอกเบี้ยลอยตัว
3.เก็บเงินสำรอง 6-12 เดือน สิ่งที่มักจะตามมาหลังวิกฤตเศรษฐกิจนั่นก็คือ “การตกงานครั้งใหญ่”
เพราะฉะนั้นเราจึงควรมีเงินเก็บเอาไว้ 6-12 เท่าของรายจ่ายแต่ละเดือน
4.กระจายความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยไม่ควรลงทุนสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงอย่างเดียว และควรกระจายความเสี่ยงด้วยการมีรายได้หลายๆทาง
4 สินทรัพย์ที่น่าลงทุน เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
- พันธบัตรรัฐบาล เป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงมาก เนื่องจากออกโดยรัฐบาล แม้ผลตอบแทนจะไม่ค่อยมาก แต่ถ้าถือจนครบสัญญาก็จะได้เงินต้นคืน พร้อมผลตอบแทนที่แน่นอน จึงทำให้พันธบัตรรัฐบาลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
- สลากออมทรัพย์ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในการใช้ค้ำประกันจากรัฐบาล รวมไปถึงมีการออกสลากโดยธนาคารที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล (ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์) ดังนั้นหากถือครบสัญญาสลาก โอกาสที่จะได้เงินต้นและผลตอบแทนก็ไม่ต่างจากพันธบัตรรัฐบาล แถมยังมีโอกาสได้ลุ้นรางวัลทุกเดือนอีกด้วยครับ
- ที่ดิน ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจแบบไหน คนก็ยังต้องการที่ดินเพื่อใช้ทำประโยชน์และอยู่อาศัย แม้ที่ดินบางประเภทอาจราคาลดลงบ้างเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวแล้วที่ดินมักจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ทองคำ เนื่องจากทองคำมีความมั่นคงสูง มีมูลค่าในตัวเอง มีสภาพคล่อง ซื้อขายง่าย รวมถึงได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อน้อยมาก รวมถึงมักจะมีราคาสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจ จึงทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่คนนิยมลงทุนมากๆเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นหรือไม่ การเตรียมตัวรับมืออยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ วางแผนการเงินให้ดี หมั่นหาความรู้อยู่เสมอ และบริหารสภาพคล่องของตัวเองให้ดี เพราะจะทำให้คุณสามารถรับมือกับมัน และเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในการลงทุนได้
และถ้าต้องการเงินด่วนเพื่อนำไปหมุนทำธุรกิจในช่วงนี้ พี่แคชแนะนำว่าควรหาแหล่งเงินด่วนที่มีความมั่นคง ดอกเบี้ยไม่สูงมาก และมีสภาพคล่องสูง เพื่อที่จะได้ต่อยอดธุรกิจเราได้ โดยไม่ต้องกังวล
สำหรับใครที่กำลังมองแหล่งเงินด่วนดีๆ ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ พี่แคชขอแนะนำ Cash Express โรงรับจำนำที่สามารถประเมินราคาออนไลน์ได้ สะดวกรวดเร็ว แถมให้ราคาประเมินสูง !
ประเมินราคาออนไลน์ฟรี คลิกเลย :