โพสต์เมื่อ : 1 เม.ย. 2563
ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนสูงจากสภาวการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด COVID-19 (หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไวรัสโคโรน่า ไวรัสอู่ฮั่น), เหตุการณ์ทางการเมืองที่สภาดูจะร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี, รวมไปถึงเหตุร้ายในหน้าข่าวปี 2020 ที่มีการขโมยของ ปล้น ไม่เว้นแต่ละวัน…
เรื่องเหล่านี้คงจะกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตของทุกคนไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่มีทรัพย์สินมีค่าอยู่กับตัว ไม่ว่าจะเป็น แหวนเพชร ทองคำ พระเครื่องเลี่ยมกรอบทอง นาฬิกาหรู และอื่นๆอีกมากมาย ที่หากเก็บรักษาไม่ดี วันใดวันหนึ่ง อาจถูกโจรขึ้นบ้านและปล้นเอาไปได้
วันนี้พี่แคชเลยจะมาแนะนำทางออกสำหรับคนที่อยากเก็บรักษาทรัพย์สินมีค่ากันครับ
ว่าคุณสามารถนำไปฝากที่ไหนได้บ้าง และมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่...ไปติดตามกันได้ในโพสต์นี้เลยครับ
ทางเลือกที่ 1...ฝากที่ “ตู้นิรภัยธนาคาร”
สำหรับทางเลือกที่ 1 ที่พี่แคชจะมาแนะนำกันนั่นก็คือ “การฝากที่ตู้นิรภัยธนาคาร” ทุกคนอาจเข้าใจว่าธนาคารรับฝากแค่เงินใช่ไหมครับ? แต่จริงๆแล้วขอบอกเลยว่าธนาคารบางแห่ง บางสาขา มีบริการตู้นิรภัยฝากทรัพย์สินได้ด้วย โดยของส่วนใหญ่ที่คนนิยมเอาไปฝากกัน ได้แก่ ทองคำ เครื่องเพชร เอกสารสำคัญ ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีราคาค่าบริการให้เช่าตู้นิรภัย
แตกต่างกันออกไปครับ
ทางเลือกที่ 2...ฝากที่ “โรงรับจำนำ”
สำหรับทางเลือกที่ 2 “โรงรับจำนำ” พี่แคชเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆคนที่ไม่รู้ว่าเราสามารถนำทรัพย์สินมีค่าไปเก็บที่โรงรับจำนำได้ วันนี้พี่แคชเลยจะมาแนะนำวิธีกันครับ
โดยวิธีนำทรัพย์สินมีค่าไปฝากที่โรงรับจำนำ สามารถทำได้โดย “การนำทรัพย์สินไปจำนำและเมื่อครบกำหนด 4 เดือน 30 วัน ก็ต่อดอกไปเรื่อยๆ”...จำนวนดอกเบี้ยที่เราจ่ายให้กับโรงรับจำนำ จึงเปรียบเสมือนเป็นค่าใช้จ่ายในการฝากของ
ซึ่งใครที่อยากฝากทรัพย์สินมีค่าที่โรงรับจำนำ แล้วเกิดประโยชน์สูงสุด พี่แคชแนะนำว่าให้ตั้งจุดประสงค์ในการฝากทรัพย์สินของเราก่อนครับ ว่าต้องการแบบใด
1. แค่ต้องการฝากของ ไม่เดือดร้อนเงิน
2. ต้องการฝากและอยากได้เงินก้อน
หากเป็นกรณี “แค่ฝาก ไม่เดือดร้อนเงิน” พี่แคชแนะนำว่าให้บอกทางโรงรับจำนำว่าจะขอแค่ราคาประเมินขั้นตำ่ (แนะนำให้ยอดที่ต่อรองไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ครับเพราะจะได้ดอกเบี้ยที่ 1.25% /เดือน ในขณะที่หากยอดไม่ถึง 2,000 บาท จะเสียดอกเบี้ย 2% ต่อเดือน)
ส่วนถ้าใคร “ต้องการฝากของและอยากได้เงินก้อน ไปต่อยอดการลงทุน” พี่แคชแนะนำให้ขอราคาประเมินสูงสุดกับทางโรงรับจำนำครับ ทางผู้จำนำก็จะได้ยอดประเมินสูงสุดตามที่ตกลงกันไป ซึ่งหากมองในมุมการลงทุน ถือว่าวิธีนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะในระหว่างที่เราฝากสินทรัพย์ไว้ที่โรงรับจำนำ เราสามารถนำเงินสดที่เป็นมูลค่าของทรัพย์สินนั้นมาลงทุนต่อยอดได้อีก โดยที่สุดท้ายแล้วทรัพย์สินนั้นก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม
หากใครอ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ ลองดู กรณีตัวอย่างการฝากทอง 1 บาท ที่พี่แคชยกตัวอย่างมาให้เลยครับ
โดยเงื่อนไขของธนาคารส่วนใหญ่คือ ผู้ใช้บริการตู้นิรภัย ต้องเปิดบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ณ สาขาที่เช่าตู้นิรภัยและต้องฝากเงินทิ้งไว้ ตามจำนวนเงินประกันคงที่ธนาคารระบุ ตลอดระยะเวลาฝาก และเสียค่าบริการอื่นๆ เช่น
1.ค่าบริการตู้นิรภัย
2. ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
3.ค่าประกันลูกกุญแจตู้นิรภัย
สุดท้ายนี้ ใครที่อยากฝากฝากของมีค่าแบบปลอดภัย แถมได้เงินไปใช้ กับโรงรับจำนำ Cash Express
สามารถลองเข้ามาประเมินราคาออนไลน์ก่อนเข้าไปที่สาขาได้ที่นี่เลยครับ