ทำความรู้จัก Audemars Piguet Royal Oak

โพสต์เมื่อ : 26 ก.ย. 2565

ทำความรู้จัก Audemars Piguet Royal Oak

ถ้าอยากได้นาฬิกาสวย คลาสสิก! ไม่แพ้ Patek Philippe พี่แคชขอส่งแบรนด์ “Audemars Piguet” เข้าชิงตำแหน่งเลยครับ โดยเฉพาะดีไซน์ที่มีความ “Sport Luxury” โดดเด่นจากดีไซน์ของนาฬิกาแบรนด์อื่นๆ ทั้งหน้าปัดทรงกลมที่อยู่ในกรอบแปดเหลี่ยม หน้าปัดลวดลายตาราง และกระบวนการผลิตที่มีความประณีตมากจึงทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมจำนวนมาก โดยเฉพาะโมเดล “Royal Oak” ที่พี่แคชจะนำมาให้ได้รู้จักกัน บอกเลยว่าพลาดไม่ได้!

เปิดตำนาน Timeline “Royal Oak” 

สำหรับต้นกำเนิดของแบรนด์นี้เกิดขึ้นในปี 1875 โดยช่างนาฬิกามือฉมัง 2 คนชาวสวิตซ์เซอร์แลนด์ คือ Jules Louis Audemars  และ Edward August Piguet ด้วยความที่ทั้งคู่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้อยู่แล้วเนื่องจากสะสมประสบการณ์มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งพรสวรรค์ของ Audemars นี่เองที่ทำให้กลไกต่างๆ ของนาฬิกาเรือนสวยขับเคลื่อนไปได้อย่างไหลลื่นและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก

ถัดมาในปี 1970s เป็นปีที่ก้าวไปอีกขั้นของแบรนด์ Audemars Piguet เนื่องจากได้มีการร่วมกับนักออกแบบชื่อดังอย่าง Gerald Genta ในการสร้างสรรค์นาฬิการุ่น “Royal Oak” ขึ้นมาใหม่เพื่อก้าวข้ามความท้าทายครั้งสำคัญจากวิกฤตที่นาฬิกาควอตซ์ญี่ปุ่นครองตลาด ซึ่ง Gerald Genta ใช้เวลาไม่ถึง 1 วันในการร่างแบบนาฬิการุ่นนี้ขึ้นมาโดยเปลี่ยนรูปแบบเดิมๆ ทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง การปฏิวัติดีไซน์ในครั้งนั้นเองที่ทำให้ Royal Oak ขึ้นแท่นนาฬิกาในตำนานที่กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก

Royal Oak รหัส Ref. 5402 หรือ “A-series” เผยโฉมครั้งแรกในปี 1972 โดยมีราคาประมาณ 110,000 บาท และผลิตเพียงแค่ 1,000 เรือนเท่านั้น หลังจากเปิดตัวได้เพียง 3 ปีก็สามารถครองใจนักสะสมนาฬิกาได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าแบรนด์ดังอย่าง Patek Philippe อีกด้วย

เกร็ดน่ารู้ของ “Royal Oak”

หลายๆ คนที่ยังสงสัยว่าทำไมถึงต้องเป็น “Royal Oak” วันนี้พี่แคชสรุปเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากกันแล้วครับ

ในสมัยก่อน Royal Oak เป็นสัญลักษณ์แห่งการปกป้องคุ้มภัย มาจากเหตุการณ์สำคัญที่พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ใช้ในการหลบภัยช่วงสงครามกลางเมือง จึงทำให้ Audemars Piguet นำเอาชื่อนี้มาใช้ ในปัจจุบัน Royal Oak จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราคลาสสิกที่อยู่ในใจของนักสะสมไม่แพ้แบรนด์ สวิส อย่าง Patek Philippe นับว่าเป็นชื่อที่มีความหมายดี และเป็นที่จดจำ เหมาะกับแบรนด์มากเลยทีเดียวครับ

ปัจจุบันนี้ Royal Oak มีหลายรุ่นหลายดีไซน์ที่สวยคลาสสิก ถึงราคาอาจจะสูงสักนิดโดยที่เริ่มต้นตั้งแต่ 6 แสนบาทขึ้นไป แต่รับรองว่าซื้อไปแล้วดีต่อใจ คุ้มค่าในระยะยาวไม่ว่าจะสวมใส่หรือสะสมไว้เก็งกำไร

ซึ่งในปี 2022 นี้จะมีการหยุดผลิต Royal Oak รหัส 15202STทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่า ราคามือสองของรุ่นนี้อาจจะพุ่งสูงขึ้นอีกด้วยนะครับ

ใครที่มี Audemars Piguet Royal Oak อยู่ในมือแล้วอยากเปลี่ยนมาใส่รุ่นใหม่ลองนำนาฬิกามาประเมินราคาออนไลน์ได้ที่โรงรับจำนำแคชเอ็กซ์เพรส ที่ให้ราคาดี แถมประเมินเบื้องต้นได้ฟรีที่ลิงก์นี้เลย

https://www.cashexpress-pawn.com/estimate/login

ขอบคุณที่มา

https://bit.ly/3K5giTb