เก็บออมอย่างไรให้มีเงินล้าน?

โพสต์เมื่อ : 12 ก.พ 2563

เก็บออมอย่างไรให้มีเงินล้าน?

เชื่อว่าความใฝ่ฝันของคนทำงานหลายๆ คนในยุคนี้ คือการมีเงินล้านก้อนแรกในชีวิต ซึ่งการที่จะได้เงินล้านก้อนแรกมานั้น การออมเงินนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครออมก่อนย่อมได้เปรียบ นั่นหมายความว่าถ้าหากเรายังไม่เริ่มเก็บออมตั้งแต่วันนี้ เพื่อนคนอื่นอาจจะแซงหน้าเรา จนมีเงินล้านไปแล้วก็ได้ แล้วถ้าอยากมีเงินล้าน ต้องออมเดือนละเท่าไหร่? น้องตู้เซฟคำนวณคร่าวๆมาฝากกันเเล้วค่ะ

อยากมีเงินล้าน ต้องออมเดือนละเท่าไหร่

จำนวนเงินออม/เดือน42,000 บาทระยะเวลาในการออม 2 ปี

จำนวนเงินออม/เดือน17,000 บาทระยะเวลาในการออม 5 ปี

จำนวนเงินออม/เดือน8,400 บาท ระยะเวลาในการออม 10 ปี

จำนวนเงินออม/เดือน5,600 บาท ระยะเวลาในการออม 15 ปี

จำนวนเงินออม/เดือน4,200 บาท ระยะเวลาในการออม 20 ปี

*คำนวณโดยประมาณแบบไม่รวมอัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนจากการฝากออมและลงทุน

จะเห็นได้ว่ายอดการเก็บออมในแต่ละเดือน ถือเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งการออมเงินจากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว สำหรับคนที่เงินเดือนสูงมากๆ ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับคนธรรมดา มนุษย์เงินเดือน หาเช้ากินค่ำอย่างเราๆ คงเป็นไปยากที่เราจะมีเงินเดือนสูงขนาดนั้น ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการจะไปให้ถึงเงินล้านได้ไวขึ้น การออมเงินอย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์พอ วันนี้น้องตู้เซฟเลยมี 4 Step สู่เงินล้านมาฝากกันค่ะ

STEP 1 :หาเงินออมเพิ่มจากการทำงานพิเศษ

สร้างช่องทางให้เรามีรายรับมากขึ้น เพื่อนำเพิ่มเงินออม เงินลงทุนนอกเหนือจากงานประจำที่เราทำกันอยู่แล้ว การหางานพิเศษก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เรามีรายรับมากขึ้น เราสามารถนำความรู้หรือความสามารถที่เรามีอยู่มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสอนพิเศษ การรับงานฟรีแลนซ์ หรือขายของออนไลน์ เราก็จะสามารถนำรายได้ตรงนี้มาเก็บเป็นเงินออม หรือ แบ่งไปลงทุนต่อยอดในด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย

STEP 2 :เก็บสะสมทองคำ

เพราะซื้อขายง่าย มีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลาเมื่อหารายได้เพิ่มเเล้ว การแปลงเงินสดที่มีอยู่ให้อยู่ในรูปแบบสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลา ก็จะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในขณะถือครองสินทรัพย์นั้น ซึ่งทองคำเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นสินทรัพย์ชิ้นแรกที่ทุกคนเร่ิมเก็บ เพราะคนทั่วโลกให้การยอมรับ  สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ตลอด มูลค่าการเติบโตค่อนข้างเสถียรอีกทั้งหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถนำทองรูปพรรณไปเปลี่ยนเป็นเงินสดด้วยการนำไปจำนำได้รวมไปถึงคนที่มีกำลังทรัพย์น้อยที่มองว่าทองคำเป็นเรื่องไกลตัว ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราสามารถนำเงินเริ่มต้นเพียง 200 - 1,000 บาท ไปออมทองกับร้านทอง หรือแอปพลิเคชันออมทองได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อสะสมครบบาทก็สามารถถอนทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณออกมาได้ตามปกติ

STEP 3 :ลงทุนในกองทุนหรือหุ้น

แบ่งเงินออมไปลงทุนในกองทุนหรือออมหุ้น ที่ความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นหลังจากที่สามารถเก็บเงินออมได้มากขึ้น และเริ่มคุ้นเคยกับการเปลี่ยนเงินเป็นสินทรัพย์อื่นๆแล้ว น้องตู้เซฟขอแนะนำอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยต่อยอดเงินออมของเราให้ไปถึงเงินล้านได้เร็วยิ่งขึ้น นั่นก็คือ การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยให้คุณมีโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ โดยการเริ่มต้นลงทุนในกองทุน กองทุนรวมดัชนี, LTF, RMF ที่มีความเสี่ยงต่ำๆ ระดับ 1-4 และเมื่อเชี่ยวชาญในการลงทุนมากพอ ก็ค่อยขยับไปลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นในระดับ  5 - 7  หรือขยับไปลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคง อยู่ใน SET50 , SET100 ก็จะช่วยให้คุณถึงเป้าหมายเงินล้านได้ไวขึ้นค่ะ

STEP 4 :สะสมสินทรัพย์ที่สามารถนำมาเกร็งกำไรได้

แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีตลาดเฉพาะกลุ่ม เพื่อหวังกำไรสูงขึ้นเพื่อมาลงทุนในสินทรัพย์อื่นเพิ่มเติม(รูปกระเป๋าแบรนด์เนม LV / Channel นาฬิกา Rolex / เครื่องประดับเพชร)

เมื่อคุณคุ้นเคยกับการเก็บออมและการลงทุนเเล้ว สิ่งที่น้องตู้เซฟอยากแนะนำคือ ให้ลองขยับขยายการลงทุนของตัวเองไปสะสมสินทรัพย์ที่สามารถนำมาเกร็งกำไรได้ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาแบรนด์เนม เครื่องประดับหรูเพราะสินทรัพย์เหล่านี้เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งผู้ซื้อขายให้มูลค่ากับสิ่งของเหล่านี้ มากกว่าให้ความสำคัญกับราคาซื้อขาย (ของบางชิ้นเรียกว่าซื้อขายกันแบบไม่สนใจราคาเลยก็มี) ทำให้มีโอกาสที่คุณจะได้ผลตอบแทนสูง จากการซื้อขายได้นั่นเองค่ะ  ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ที่จะลงทุน ก็จะต้องเป็นแบรนด์ที่มีความ Timeless แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ได้รับความไว้วางใจอยู่เสมอๆ  เช่น  Chanel , Patek Philippe , Rolex  และนอกจากนี้สิ่งที่คนอยากมีเงินล้านแรกในชีวิต ควรจะต้องมี คือ “วินัยในการเก็บออม” เปลี่ยนวิธีจาก “ใช้ก่อนเก็บ” เป็น “เก็บก่อนใช้” ทุกครั้งเมื่อได้เงินเดือนควรจะแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เช่น เมื่อได้รับเงินเดือนมา ควรเริ่มต้นจากการหักเป็นเงินออมอย่างน้อย 10-20% ของเงินเดือน และหักเป็นเงินสำรองใช้จ่ายในยามฉุกเฉินอีกอย่างน้อย 10-20% จากนั้นเงินที่เหลือให้นำมาแบ่งออกมาเป็น 30 วัน ใช้วันละเท่าๆ กัน ก็จะช่วยสร้างวินัยให้กับทุกคนได้ค่ะส่วนใครที่มีปัญหาด่วนในระหว่างเก็บเงินล้าน รู้หรือไม่คะ ว่าทรัพย์สินมีค่าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชร หรือกระเป๋าแบรนด์เนม สามารถนำมาเปลี่ยนเป็นเงินใช้ยามฉุกเฉินได้ที่โรงรับจำนำได้ด้วย หากสนใจลองเข้ามาประเมินราคาสินค้าออนไลน์ก่อนไป ที่หน้าสาขา หรือปรึกษา Cash Expressได้เลยค่ะ