แชร์ทริค ปิดหนี้บ้านหมดไว ฉบับปี 2023

โพสต์เมื่อ : 17 พ.ค. 2566

แชร์ทริค! ปิดหนี้บ้านหมดไว ประหยัดได้เป็นแสน ฉบับปี 2023

 

หนี้บ้านถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดก้อนหนึ่งสำหรับหลายๆคน และต้องจ่ายดอกเบี้ยค่อนข้างสูงในแต่ละปี ถ้าไม่อยากเสียดอกเบี้ยบ้านแพงไปฟรีๆ เราสามารถลดดอกเบี้ยได้หลายๆวีธีเลยครับ

วันนี้พี่แคชจะพาไปดูกันว่า ดอกเบี้ยบ้านนั้นเค้าคิดกันอย่างไร และถ้าอยากประหยัดดอกเบี้ยบ้านหลักแสนต้องทำยังไงบ้าง ใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่บทความนี้ห้ามพลาด!

 

ดอกเบี้ยบ้าน คิดอย่างไร? 

ดอกเบี้ยบ้านเป็นดอกเบี้ยที่คิดอัตราน้อยมากๆ โดยจะอยู่ที่ 2.5-5% ต่อปี แต่ด้วยยอดหนี้ที่ค่อนสูงทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยค่อนข้างเยอะ ซึ่งเวลาผ่อนแต่ละเดือนเงินที่เราผ่อนจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะเป็นเงินต้น ส่วนที่สองจะเป็นดอกเบี้ย

ดอกเบี้ยบ้านนั้นจะคิดแบบ “ลดต้นลดดอก” หมายความว่า ยิ่งเราผ่อนจนเงินต้นลดมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่จ่ายก็จะน้อยลงเท่านั้น ทำให้ช่วงแรกๆเงินที่เราผ่อนจะเป็นส่วนของดอกเบี้ยค่อนข้างเยอะ และเป็นเงินต้นค่อนข้างน้อย

อยากปิดหนี้บ้านหมดไว ต้องทำยังไง? 

แม้ว่าดอกเบี้ยจะค่อนข้างสูง แต่เราสามารถลดดอกเบี้ยได้ด้วย 2 วิธีครับ วิธีแรกคือขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคาร ส่วนวิธีที่สองคือการโปะบ้านเพื่อให้เงินต้นลดมากที่สุดจะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพง แต่ละวิธีมีรายละเอียดยังไง วิธีไหนเหมาะกับคุณบ้าง เราไปดูกันเลยครับ!

ลดอัตราดอกเบี้ยบ้านทุก 3 ปี 

 

เนื่องจากดอกเบี้ยบ้านเกือบทุกธนาคารมักจะให้ดอกเบี้ยต่ำแค่ประมาณ “สามปีแรก” เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามากู้กับธนาคาร หลังจากนั้นดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นเกือบ 2 เท่า (ขึ้นอยู่กับ MRR ตอนนั้น) 

ซึ่งหากคุณจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย ก็มีโอกาสที่จะเสียดอกเบี้ยเป็นแสนฟรีๆ ดังนั้นเราจึงควรขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารทุกๆ 3 ปี เพื่อให้ดอกเบี้ยเราถูกไปตลอด ซึ่งเราสามารถเลือกลดดอกเบี้ยได้สองวิธีดังนี้

รีไฟแนนซ์ 

การรีไฟแนนซ์บ้านก็คือการย้ายธนาคารที่เรากู้สินเชื่อบ้าน เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าที่เก่า เพราะหลายๆธนาคารมักจะแข่งกันให้โปรโมชันในการรีไฟแนนซ์ คล้ายๆโปรย้ายค่ายมือถือ 
??ซึ่งการรีไฟแนนซ์ไปกู้ธนาคารใหม่มักจะลดดอกเบี้ยไปถึง 3-4% ต่อปี  ทำให้คุณประหยัดดอกเบี้ยไปได้ต่อปีหลักแสนถึงหลักล้าน เลยทีเดียว 

แต่แน่นอนว่าการเปลี่ยนสินเชื่อไปธนาคารใหม่นั้น ก็มักจะมีขั้นตอนยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายพอสมควร จึงเหมาะกับช่วงที่เรามียอดหนี้มากกว่า 1 ล้านบาท ถึงจะคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป

รีเทนชั่น 

รีเทนชั่น (retention) เป็นการเข้าไปเจรจาขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีลดดอกเบี้ยที่ดีสำหรับคนที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี แต่ก็ต้องสอบถามกับทางธนาคารก่อนนะครับ เพราะบางธนาคารก็ไม่มีนโยบายให้รีเทนชั่น

โดยส่วนใหญ่การรีเทนชั่นนั้นมักจะลดดอกเบี้ยไปประมาณ 1-2% ต่อปี ซึ่งจะน้อยกว่าการรีไฟแนนซ์ แต่ข้อดีก็คือ ขั้นตอนการดำเนินงานที่ไม่ยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไม่สูงมาก

 

โปะบ้านเป็นประจำ 

การโปะบ้านก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ทำให้เราลดดอกเบี้ยไปได้เยอะมาก อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่า ดอกเบี้ยบ้านนั้นคิดแบบลดต้นลดดอก การที่เราจ่ายเพิ่มเข้าไปจากที่ต้องผ่อนตามปกติ จะเข้าไปตัดเงินต้นโดยตรงและทำให้ดอกเบี้ยถูกลง

หลายคนอาจสงสัยว่า เราควรโปะทุกเดือน หรือโปะปีละครั้งเป็นก้อนใหญ่ไปเลย แบบไหนจะลดดอกเบี้ยได้เยอะกว่า กรณีนี้พี่แคชขอแนะนำว่า “โปะทุกเดือน” ดีกว่าครับ เนื่องจากจะไปโปะต้นเงินต้นได้ทันที ทำให้เดือนต่อไปดอกเบี้ยถูกลง แถมยังเป็นการฝึกวินัยด้านการเงินของเราด้วย พูดง่ายๆเลยคือ โปะให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ 

หรือถ้ามีเงินก้อนใหญ่เข้ามาก็แนะนำให้แบ่งเก็บเงินไว้เพื่อให้มีสภาพคล่องหรือเป็นเงินฉุกเฉิน หลังจากนั้นก็นำเงินส่วนที่เหลือมาโปะเพื่อลดดอกเบี้ยก็ได้ครับ 

นอกจากนี้การลงทุนหรือหารายได้เสริมก็สำคัญ เพราะจะสามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ที่ทำให้คุณมีเงินมาโปะบ้านเพิ่มในแต่ละเดือนได้ ทำให้ดอกเบี้ยลดมากขึ้น

สำหรับใครที่อยากจะลงทุนทำธุรกิจหรือขยายกิจการแต่ไม่มีเงินทุนหรือเงินหมุนเวียน สามารถนำทรัพย์สินมีค่าของคุณ เช่น ทองรูปพรรณ, ทองคำแท่ง, พระเลี่ยมทอง,เพชร,นาฬิกา Rolex มาประเมินราคาจำนำออนไลน์ 24 ชั่วโมงได้ที่ Cash Express รับรองว่าสะดวก รวดเร็ว จำนำทันใจ ได้เงินทันใช้ แน่นอนครับ!
 

 

 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

มือใหม่ ลงทุนทองแบบไหนดี?...

มือใหม่ ลงทุนทองแบบไหนดี? ทองคำแท่ง? ทองรูปพรรณ? ออมทอง? กองทุนทอง? Gold Future? “ทองคำ” เป็นโลหะมีค่าซึ่งเป็นที่นิยมในต ...

ดูเพิ่มเติม >

วิธีการจำนำกับ Cashexpress...

วิธีการจำนำกับ Cashexpress “เป็นโรงรับจำนำแห่งแรก ที่มีการรับประเมินราคาสินทรัพย์ทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง ...

ดูเพิ่มเติม >

ROLEX SUBMARINER รุ่นไหน ราคาถูกที่สุด?...

หลังจากที่  ROLEX SUBMARINER เปิดตัวครั้งแรกในปี  ค.ศ. 1953 ก็ได้รับความนิยมจากคนในวงการนาฬิกาเสมอมาจนมาถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 67 ปี เพราะ ...

ดูเพิ่มเติม >